ข้าวไรซ์เบอร์รี่ประโยชน์ เป็นเรื่องที่คนทุกวัยให้ความสนใจ เพราะการรักษาสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะในยุคที่โรคต่าง ๆ มักมีอาการรุนแรงและมาเยือนโดยไม่ถูกต้อง การเป็นโรคก็มีค่าใช้จ่ายสูง ดังนั้น การรักษาสุขภาพและป้องกันการเจ็บป่วยเป็นสิ่งสำคัญที่สุด หนึ่งในวิธีง่าย ๆ ในการดูแลสุขภาพก็คือการเลือกรับประทานข้ข้าวไรซ์เบอร์รี่ เพราะมีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่าข้าวขาว เราจะมาเปิดเผยว่ามีประโยชน์อย่างไรบ้าง ถ้าคุณอยากรู้ มาอ่านกันเถอะ
ข้าวไรซ์เบอร์รี่ประโยชน์ คืออะไร และ ต่างจากข้าวกล้องอย่างไร?
ข้าวไรซ์เบอร์รี่ประโยชน์ หนึ่งในสายพันธุ์ข้าวที่มีลักษณะเฉพาะมีสีม่วงเข้มที่เหมือนกับผลเบอร์รี่ สิ่งที่น่าสนใจมากคือมีกลิ่นหอมและรสชาติหวาน ที่ทำให้คนหันมาสนใจและชื่นชอบมากขึ้น มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Oryza sativa มาจากการผสมข้าวเจ้าหอมนิลกับข้าวขาวดอกมะลิ 105 โดย 100 กรัมข้าวไรซ์เบอร์รี่ให้พลังงานประมาณ 390 กิโลแคลอรี และอุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินหลายชนิดที่สำคัญต่อร่างกาย ดังนั้น กลุ่มคนที่ใส่ใจสุขภาพมักมองหาข้าวไรซ์เบอร์รี่ประโยชน์มากขึ้น นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย รวมถึงเด็ก ๆ และผู้สูงอายุ รวมทั้งคนที่กำลังตั้งครรภ์หรือมีสุขภาพไม่ดี เพราะมีประโยชน์และสารอาหารมากกว่าข้าวขาวทั่วไป
แม้ว่าข้าวกล้องและข้าวไรซ์เบอร์รี่จะมีประโยชน์ต่อสุขภาพที่เป็นที่รู้จักกันทั่วไป แต่ก็มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ข้าวไรซ์เบอร์รี่มีลักษณะเป็นชนิดข้าวที่มีสีม่วงเข้ม ส่วนข้าวกล้องหมายถึงข้าวที่ไม่ผ่านกระบวนการขัดสีหรือทำความสะอาด นั่นหมายความว่าข้าวกล้องสามารถเป็นข้าวพันธุ์ใดก็ได้ที่ไม่ผ่านกระบวนการขัดขาว เช่น ข้าวกล้องหอมมะลิ ข้าวกล้องเสาไห้ ข้าวสังข์หยด ข้าวมันปู และอื่น ๆ อย่างไรก็ตามทั้งข้าวไรซ์เบอร์รี่และข้าวกล้องมีประโยชน์ที่มากมายต่อสุขภาพด้วยวิตามินบำรุงเลือดและสารอาหารที่สำคัญไม่ต่างกัน
สารอาหารของข้าวไรซ์เบอร์รี
สำนักโภชนาการ กรมอนามัยได้แสดงปริมาณสารอาหารในข้าวไรซ์เบอร์รี่ประโยชน์ (ดิบ) ในปริมาณ 100 กรัม ดังนี้
- พลังงาน 360 กิโลแคลอรี
- น้ำ 11.8 กรัม
- โปรตีน 8.45 กรัม
- ไขมัน 4.64 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต 68.59 กรัม
- ใยอาหาร 4.2 กรัม
- เถ้า 1.78 กรัม
- แคลเซียม 16 มิลลิกรัม
- ฟอสฟอรัส 208 มิลลิกรัม
- แมกนีเซียม 158 มิลลิกรัม
- โซเดียม 2 มิลลิกรัม
- โพแทสเซียม 379 มิลลิกรัม
- ธาตุเหล็ก 1.49 มิลลิกรัม
- ทองแดง 0.26 มิลลิกรัม
- สังกะสี 2.42 มิลลิกรัม
- ไอโอดีน 4 ไมโครกรัม
- เบต้าแคโรทีน 7 ไมโครกรัม
- วิตามินเอ 1 ไมโครกรัม
- วิตามินบี 1 ปริมาณ 0.48 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 2 ปริมาณ 0.13 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 3 หรือไนอะซิน 4.08 มิลลิกรัม
- วิตามินอี 0.41 มิลลิกรัม
คุณสมบัติและประโยชน์ของข้าวไรซ์เบอร์รี่
- ข้าวไรซ์เบอร์รี่ประโยชน์ มีดัชนีน้ำตาลต่ำ ข้าวพันธุ์ไรซ์เบอร์รี่มีคุณสมบัติพิเศษในด้านดัชนีน้ำตาลที่ต่ำกว่าข้าวขาวทั่วไป ซึ่งหมายความว่ามันมีอัตราการเปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาลต่ำกว่า ทำให้รู้สึกอิ่มนาน ไม่รู้สึกหิวบ่อย และการเปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาลเกิดขึ้นช้า ๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะไม่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ลดการทำงานของอินซูลินที่มากเกินไป ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานและผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก
- ข้าวไรซ์เบอร์รี่มีปริมาณกากใยหรือไฟเบอร์สูง ซึ่งช่วยให้รู้สึกอิ่มได้นาน นอกจากนี้ยังช่วยดูดซับไขมันไม่ให้ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายและช่วยในกระบวนการขับถ่ายด้วย ซึ่งกากใยอาหารเป็นอาหารชั้นดีของแบคทีเรียในลำไส้ ทำให้กระบวนการขับถ่ายดีขึ้น ลดความเสี่ยงของการเกิดริดสีดวงทวารและมะเร็งลำไส้
- ข้าวไรซ์เบอร์รี่เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ เช่น แอนโธไซยานิน (Anthocyanins) ฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) แกรมสเตอร์รอล (Gramisterol) และแกมมาโอรีซานอล (Gamma Oryzanol) ซึ่งช่วยลดการเสื่อมของเซลล์และป้องกันการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันจากสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งอาจทำให้เกิดโรคต่าง ๆ
- ข้าวไรซ์เบอร์รี่มีไขมันดีเช่น โอเมก้า 3 และแกมมาโอไรซานอล ช่วยลดระดับไขมันเลว LDL คอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอร์ไรด์ ซึ่งลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคความดัน โรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง
- มีสารต้านมะเร็งอย่างไดคลอโรมีเทน (Dichloromethane) ลูทีน (Lutein) โพลีนอล (Polyphenols) แทนนิน (Tannin) และคาเทชิน (Catechin) ที่ช่วยลดการเกิดเซลล์มะเร็งในร่างกาย
- ยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างวิตามินอี วิตามินบี เหล็ก แคลเซียม และฟอสฟอรัส ทำให้ข้าวไรซ์เบอร์รี่เป็นอาหารที่มีประโยชน์และสำคัญต่อการดูแลสุขภาพของเราทุกคน
เคล็ดลับการหุงข้าวไรซ์เบอร์รี่ให้นุ่มหอม
การหุงข้าวไรซ์เบอร์รี่ให้ได้นุ่มหอมและน่ารับประทานนั้นเป็นเรื่องที่มีเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยไม่จำเป็นต้องมีความชำนาญมากมาย สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นใช้ข้าวไรซ์เบอร์รี่อาจจะรู้สึกไม่คุ้นเคยกับลักษณะและรสชาติของข้าวนี้ ที่มักจะไม่นุ่มเหมือนข้าวขาวทั่วไป ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดคือการผสมข้าวไรซ์เบอร์รี่กับข้าวหอมมะลิในอัตราส่วนที่เหมาะสม
เริ่มต้นโดยผสมข้าวไรซ์เบอร์รี่และข้าวหอมมะลิในอัตราส่วน 1:1 นั้นจะช่วยให้คุณได้รสชาติที่นุ่มหอมและเข้ากันได้มากขึ้น หลังจากนั้นให้ใช้น้ำเป็นสัดส่วน 2 ส่วนต่อข้าว 1 ส่วน นอกจากนี้ควรแช่ข้าวไว้ในน้ำเป็นเวลา 1 – 2 ชั่วโมงก่อนการหุง โดยการแช่ข้าวจะช่วยให้ข้าวนิ่มขึ้นเมื่อถูกหุง ด้วยเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ คุณสามารถทำให้ข้าวไรซ์เบอร์รี่ของคุณนุ่มหอมและอร่อยได้ตามใจชอบ ลองทำตามวิธีนี้และคุณจะพบว่าการหุงข้าวไรซ์เบอร์รี่ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอีกต่อไป
ทานข้าวไรซ์เบอรี่แล้วไม่อ้วน?
ข้าวไรซ์เบอร์รี่ประโยชน์ เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักและรักษาสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากมีรสชาติที่อร่อยแล้ว ข้าวไรซ์เบอร์รี่ยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างสูง สำหรับผู้ที่กังวลกับการเพิ่มน้ำหนัก การรับประทานข้าวไรซ์เบอร์รี่อาจเป็นทางเลือกที่ดี เนื่องจากมีเส้นใยอาหารที่ช่วยสร้างความอิ่มให้กับร่างกาย ซึ่งทำให้น้ำตาลในเลือดคงที่ และช่วยควบคุมน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การผลิตข้าวไรซ์เบอร์รี่ในรูปแบบของผลิตภัณฑ์พร้อมทาน เป็นนวัตกรรมใหม่ที่มีผลดีต่อสุขภาพและการลดน้ำหนัก เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผสมข้าวไรซ์เบอร์รี่และข้าวบุกเข้าด้วยกัน โดยมีแคลอรี่เพียงครึ่งหนึ่งของข้าวพร้อมทานอื่น ๆ นอกจากนี้ ยังถูกผลิตด้วยกรรมวิธีพิเศษที่ทำให้คุณสมบัติที่ดีของข้าวไรซ์เบอร์รี่ยังคงไว้ได้ และยังมีรสชาติที่หอม นุ่ม และน่าทานอีกด้วย และหากใครทานแล้วก็อย่าลืมมาปลูกต้นไม้เพื่อสร้างร่มเงาในบ้านกันนะ หรือสร้างความเย็นสบาย เช่นต้นไม่ใหญ่ ต้นไม้เล็ก ต้นวาสนา เป็นต้น
บทสรุป
ข้าวไรซ์เบอร์รี่ประโยชน์ ไม่เพียงแต่อร่อยเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์มากมายต่อสุขภาพด้วย การรับประทานข้าวไรซ์เบอร์รี่อาจเป็นการเริ่มต้นที่ดีในการดูแลสุขภาพของตัวเอง เพียงแค่เราจับมือกันมาเปลี่ยนการบริโภคข้าวให้เป็นข้าวไรซ์เบอร์รี่ที่ไม่ขัดสี อย่างง่ายดายเท่านั้นก็สามารถเพิ่มคุณค่าสุขภาพของเราได้แล้วค่ะ การเริ่มต้นใหม่ก็เริ่มจากข้าวไรซ์เบอร์รี่ได้เลย
จริงๆแล้วข้าวไรซ์เบอร์รี่กินแล้วอร่อยกว่าข้าวกล้องป่าว สงสัยมากๆเลย มีใครบอกได้มั๊ย
ชอบมากเลยค่ะที่มีบทความแบบนี้ ข้าวไรซ์เบอร์รี่เป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพจริงๆ
อยากลองทำตามเคล็ดลับที่ให้มาแล้วค่ะ หวังว่าข้าวจะออกมานุ่มหอมสุดๆ
ผมว่ากินข้าวไรซ์เบอร์รี่แล้วไม่อ้วนนะ แต่ก็ต้องควบคุมปริมาณด้วยล่ะ
เห็นด้วยครับ ทุกอย่างต้องพอดี กินเยอะเกินไปก็ไม่ดี
เรียนที่สะดวกสุดๆ เมื่อมีข้าวไรซ์เบอร์รี่เป็นมื้อเย็น ต้องทำตามเคล็ดลับนี้แล้ว
ข้าวไรซ์เบอร์รี่มีสารอาหารเยอะมากๆ เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพอย่างเราเลย
อ่านแล้วดีค่ะ แต่ไม่ค่อยแน่ใจว่าจะทำได้สำเร็จหรือเปล่า
ว้าว ข้าวไรซ์เบอร์รี่ต้องลองดูแล้วสิ หาร้านขายยากมั้ยนะ?
เคยฝันว่ากำลังกินข้าวไรซ์เบอร์รี่อยู่ คือมันมีสารพิเศษอะไรมั้ยนะ
พอดีเพิ่งเปลี่ยนมากินข้าวไรซ์เบอร์รี่ เห็นด้วยว่ามันดีจริง admin บอกถูก
กินแล้วไม่อ้วนหรอ แปลว่าข้าวมันไดเอทเราใช่ป่ะ 55555
ข้าวไรซ์เบอร์รี่กับข้าวกล้องต่างกันยังไงหรอ มีสารอาหารที่ไม่เหมือนกันหรือเปล่า
ไม่เชื่อว่ากินแล้วไม่อ้วน ข้าวก็ยังคือข้าวนะ ต้องควบคุมอาหารทั้งนั้นแหละ
เชื่อว่าข้าวไรซ์เบอร์รี่มีพลังงานบวก กินแล้วสุขภาพจะดีขึ้นแน่ๆ
อยากเห็นข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสรรพคุณทางด้านสุขภาพของข้าวไรซ์เบอร์รี่ ไม่แน่ใจว่าทุกอย่างที่อ่านมาจริงหรือป่าว
เห็นว่าต้องหุงนานกว่าข้าวปกติ คิดว่าคงละเลย แต่ถ้ามันดีจริงๆ อาจจะลองดู
ข้าวไรซ์เบอร์รี่ทำไมถึงมีชื่อเสียงเรื่องสุขภาพนะ มันมีอะไรพิเศษ?
ว้าว กินข้าวเพื่อสุขภาพ ถัดไปคืออะไร? น้ำอากาศหรอ? พวกนี้ก็มา
ปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีย์ ถ้ามันไม่ใช้สารเคมี ก็จะดีต่อสัตว์ป่าด้วย
เคล็ดลับการหุงข้าวให้นุ่มหอมนี่เจ๋งมาก ต้องลองทำดูแล้ว! ขอบคุณมากครับ